ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาประกาศความร่วมมือวิจัยการโจมตีทางไซเบอร์ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยสถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งชาติของญี่ปุ่น (NICT) จะจัดตั้งสถานวิจัยในกรุงวอชิงตัน เริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ 2025 ร่วมกับ Mitre องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ได้รับทุนวิจัยจากรัฐบาลสหรัฐฯ
ความร่วมมือนี้จะผสานจุดแข็งของทั้งสองฝ่าย โดยสหรัฐฯ มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี ขณะที่ญี่ปุ่นมีข้อมูลการโจมตีจากประเทศที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งมีความสำคัญมากขึ้นเนื่องจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการแปลภาษาด้วย AI ทำให้วิธีการโจมตีจากประเทศต่างๆ สามารถถูกนำมาใช้กับสหรัฐฯ ได้
รายงานจาก Check Point Software Technologies ระบุว่า การโจมตีทางไซเบอร์ต่อบริษัททั่วโลกในไตรมาส 3 ปี 2024 เพิ่มขึ้น 75% จากปีก่อน โดย AI อาจถูกใช้ในการโจมตีหลายรูปแบบ ทั้งการโจมตีแบบ DDoS การใช้แรนซัมแวร์ และการใช้ดีพเฟคเพื่อขโมยข้อมูล
การสำรวจพบว่า บริษัทญี่ปุ่นน้อยกว่า 20% มีแผนใช้ AI อย่างจริงจัง เทียบกับ 46% ในสหรัฐฯ และ 71% ในจีน แต่ 70% ของบริษัทญี่ปุ่นเห็นว่าการใช้ AI เพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัย รัฐบาลญี่ปุ่นจึงวางแผนจัดทำแนวทางรับมือการโจมตีทางไซเบอร์ที่ใช้ AI และพัฒนาระบบเฝ้าระวังภายในปีงบประมาณ 2025
References :
