บริษัทการค้าชั้นนำของญี่ปุ่นกำลังขยายธุรกิจอาหารในต่างประเทศอย่างแข็งขัน โดยมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายและความสามารถในการสร้างธุรกิจใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการอาหารที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคที่มีการเติบโตของประชากร
Mitsui & Co. ได้ร่วมทุนกับ SATS บริษัทอาหารบนเครื่องบินชั้นนำจากสิงคโปร์ เพื่อพัฒนาอาหารแช่แข็งสำหรับตลาดอาหารนอกบ้านในประเทศกำลังพัฒนา โดยเน้นที่ความสะอาดและความสะดวก Mitsui & Co. ลงทุนประมาณ 4 พันล้านเยน คิดเป็น 15% ของหุ้นในบริษัทร่วมทุน โดยมีเป้าหมายที่ตลาดอินเดีย ไทย และจีน ซึ่งมีความต้องการอาหารที่ปลอดภัยและอร่อยเพิ่มขึ้นตามการพัฒนาทางเศรษฐกิจ
SATS ผลิตอาหารบนเครื่องบินกว่า 120,000 มื้อต่อวัน และมีจุดแข็งในด้านมาตรฐานสุขอนามัยที่สูงและความสามารถในการพัฒนาเมนูอาหารที่หลากหลาย ซึ่งสามารถอุ่นด้วยไมโครเวฟได้ง่าย โดยเฉพาะในอินเดีย Mitsui & Co. ได้ลงทุนในบริษัทโลจิสติกส์ที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดในประเทศที่ยังขาดระบบการกระจายสินค้าที่มีประสิทธิภาพ
ในขณะเดียวกัน Sojitz ได้เข้าซื้อกิจการ Sushi Avenue ในสหรัฐอเมริกา ด้วยมูลค่าหลายพันล้านเยน เพื่อขยายธุรกิจซูชิในตลาดอเมริกา โดยจะผสานเครือข่ายการจำหน่ายซูชิในซูเปอร์มาร์เก็ตกว่า 300 แห่งของ Sushi Avenue เข้ากับความเชี่ยวชาญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปของ Sojitz
Sojitz เล็งเห็นโอกาสในตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีการเพิ่มขึ้นของประชากรจากการอพยพเข้าประเทศ และความนิยมในซูชิที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมนูอย่างแคลิฟอร์เนียโรลที่ใช้อะโวคาโด นอกจากนี้ Sojitz ยังได้ร่วมมือกับ Royal Holdings และ Choushimaru เพื่อจัดตั้งบริษัทธุรกิจซูชิใหม่ในสหรัฐอเมริกาในเดือนมีนาคม 2024
แม้ว่าสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจทั่วโลกจะมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น แต่แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของความต้องการอาหารที่มาพร้อมกับการเพิ่มขึ้นของประชากรยังคงเป็นที่แน่นอน ส่งผลให้การแข่งขันในการพัฒนาตลาดอาหารระหว่างบริษัทการค้าญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะเข้มข้นขึ้นในอนาคต
References :