ยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่น นำโดย Toyota, Nissan และ Honda เตรียมผนึกกำลังพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับรถยนต์โมเดลถัดไป โดยจะนำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง Generative AI และเซมิคอนดักเตอร์มาหลอมรวมกัน ซึ่งสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (METI) เตรียมประกาศเร็วๆ นี้

ภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว METI จะเรียกร้องความร่วมมือจากผู้ผลิตรถยนต์ในการกำหนดแนวทางพัฒนายานยนต์ยุคถัดไปไปจนถึงทศวรรษ 2030 โดยมุ่งเน้นไปที่แนวคิด Software-Defined Vehicle (SDV) ที่เป็นการปรับปรุงคุณสมบัติของรถผ่านซอฟต์แวร์แทนฮาร์ดแวร์อย่างเครื่องยนต์และชิ้นส่วน เช่น การเพิ่มระบบขับขี่อัตโนมัติด้วยซอฟต์แวร์อัปเดต ทั้งนี้ความร่วมมือครั้งนี้น่าจะช่วยลดต้นทุนการพัฒนาท่ามกลางการแข่งขันด้านดิจิทัลที่ทวีความเข้มข้น

รัฐบาลญี่ปุ่นได้ระบุ 7 ด้านหลักที่จะสนับสนุนการพัฒนาและการขยายตลาดรถยนต์ SDV ได้แก่ ชิป, API ที่เชื่อมซอฟต์แวร์และระบบของรถ, การจำลองเสมือน, AI, ระบบรักษาความปลอดภัยจากการโจมตีทางไซเบอร์, แผนที่ 3 มิติความละเอียดสูงสำหรับการขับขี่อัตโนมัติ และเทคโนโลยีวัดระยะห่างระหว่างรถกับวัตถุหรือคนเดินถนน โดย METI เรียกร้องให้กำหนดมาตรฐานกลางในด้านเหล่านี้ เพื่อป้องกันความแตกต่างของสเปคที่อาจทำให้ต้นทุนและระยะเวลาพัฒนาเพิ่มขึ้น ขณะที่ระบบปฏิบัติการหลักในรถจะให้แต่ละบริษัทพัฒนาแยกกัน

เทคโนโลยี SDV ที่แพร่หลายมากขึ้นจะทำให้ผู้ผลิตรถสร้างรายได้จากการอัปเดตซอฟต์แวร์ในภายหลัง นอกเหนือจากการขายรถ แต่ถ้าญี่ปุ่นพัฒนาซอฟต์แวร์ยานยนต์ล่าช้าเกินไป อุตสาหกรรมต่อเนื่องอย่างชิ้นส่วนและวัสดุอาจเผชิญผลกระทบหนัก ดังนั้นความร่วมมือครั้งนี้จึงเป็นความพยายามของผู้ผลิตรถญี่ปุ่นในการรักษาขีดความสามารถแข่งขันบนตลาดโลก โดยทั้ง Toyota, Nissan และค่ายอื่นๆ เตรียมเปิดตัวรถ SDV ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป


References :

Nikkei Asia

0 Shares:
You May Also Like