NTT Docomo ผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำของญี่ปุ่น เตรียมปิดร้านโทรศัพท์มือถือกว่า 700 แห่ง หรือประมาณ 30% ภายในปี 2025 เนื่องจากผู้บริโภคเปลี่ยนไปใช้ช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น พร้อมเล็งเข้าสู่โลกเสมือนบน Metaverse ด้วยการสร้างร้านออนไลน์ และมีพนักงานขายเป็น Avatar

ล่าสุด NTT Docomo ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือซึ่งมีเครือข่ายสาขาเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่น วางแผนปิดร้านสาขากว่า 100 แห่ง ภายในปีนี้

จากสถิติการเข้าชมร้านค้าของ NTT Docomo ที่ลดลงถึง 30% ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา ประกอบกับการเปิดตัวแผนมือถือราคาประหยัดที่สามารถลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทั้งหมด ส่งผลให้แผนดังกล่าวได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคช่วงอายุ 20 – 30 ปี เป็นอย่างมาก

นอกจากนั้น ผู้บริโภคในปัจจุบันไม่ค่อยเปลี่ยนโทรศัพท์เครื่องใหม่บ่อยเท่ากับในอดีต ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฟีเจอร์ต่าง ๆ ไม่ได้แตกต่างกับเครื่องเดิมของตนมากนัก รวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ผู้คนออกจากบ้านกันน้อยลง

จึงมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์โดยมุ่งเน้นการขายไปที่ช่องทางออนไลน์ ซึ่งตั้งเป้าที่จะเปิดร้านค้าออนไลน์ 10 แห่ง ในแต่ละภูมิภาคบน Metaverse พร้อมสร้าง Avatar เป็นพนักงานขาย และจะเริ่มเปิดให้ใช้บริการอย่างเป็นทางการภายในเดือนกรกฎาคมนี้

โดยสถาบันวิจัย Yano ในกรุงโตเกียวคาดการณ์ว่า ในปี 2023 จำนวนสมาชิกที่เลือกลงทะเบียนใช้บริการโทรศัพท์มือถือผ่านช่องทางออนไลน์จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึง 24.5 ล้านคน เกือบสองเท่าจากปี 2022

อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศญี่ปุ่นเริ่มชะลอตัวลงในปี 2021 โดยมีอัตราการซื้อขายเพิ่มขึ้นเพียง 3% น้อยกว่าปี 2554 เกือบสามเท่า ซึ่งเป็นปีที่ผู้ให้บริการเริ่มวางจำหน่ายไอโฟนกันมากขึ้นนั่นเอง


References :

NIKKEI ASIA
IPHONE WIRED

0 Shares:
You May Also Like