คณะกรรมการด้านการศึกษาของเมือง Kumamoto ประเทศญี่ปุ่น เตรียมเสนอให้ใช้ ‘หุ่นยนต์’ เพื่อเข้าร่วมชั้นเรียน และทำกิจกรรมต่างๆ ในโรงเรียนแทนเด็กนักเรียนที่มีปัญหาด้านสภาพจิตใจจนไม่สามารถเข้าร่วมชั้นเรียนได้
โดยคณะกรรมการได้เสนอในที่ประชุมสภาเมืองเมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งมีข้อเสนอว่าให้นำ ‘หุ่นยนต์’ เข้ามาติดตั้งในห้องเรียน เพื่อให้นักเรียนที่ไม่ได้เข้าร่วมชั้นเรียนสามารถควบคุมหุ่นยนต์จากระยะไกลได้ เนื่องจากมีความกังวลว่านักเรียนในระดับชั้นประถมและระดับมัธยมต้นเริ่มมีการเข้าเรียนในชั้นเรียนน้อยลง
ซึ่งเมื่อนำข้อมูลทางสถิติของเด็กนักเรียนในช่วงวัยดังกล่าวมาเทียบกันระหว่างปี 2018 กับปี 2022 ก็พบว่า มีนักเรียนที่ไม่มาเข้าเรียนในช่วงปี 2022 มากถึง 2,760 คน เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับปี 2018
ทั้งนี้ หุ่นยนต์จะมีความสูงประมาณ 1 เมตร และเคลื่อนที่ได้ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์หลายอย่าง อาทิ กล้อง ไมโครโฟน ลำโพง เพื่อให้นักเรียนที่ควบคุมจากที่บ้านสามารถมองเห็นและได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องเรียน รวมถึงร่วมกิจกรรมที่เกิดในห้องเรียนด้วยการพูดคุยกับนักเรียนคนอื่นๆ ในห้องได้ นอกจากนี้ ยังเข้าร่วมกิจกรรมนอกห้องเรียนได้อีกด้วย
โดยเป้าหมายของโครงการคือการช่วยปูทางให้นักเรียนที่ไม่สามารถเข้าชั้นเรียนเนื่องจากความเครียด ความวิตกกังวล หรือปัญหาทางสังคม ปัญหาทางสภาพจิตใจ ปัญหาทางสภาพอารมณ์และอื่นๆ สามารถกลับไปเข้าเรียนและมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมได้นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการก็ไม่ได้บังคับให้เด็กที่ไม่เข้าเรียนในห้องเรียนต้องใช้หุ่นยนต์ถ้าพวกเขาไม่ต้องการ และโครงการนี้จะเริ่มในระดับเล็กๆ ในเมืองคุมาโมโตที่มีประชากรราว 735,000 คนก่อน โดยวางแผนไว้ว่าจะเริ่มใช้หุ่นยนต์เพียง 2 ตัว ก่อนจะส่งไปยังโรงเรียนอื่นๆ ที่ต้องการใช้บ้าง
ซึ่งหากข้อเสนอได้รับการอนุมัติ คาดว่าหุ่นยนต์จะถูกนำมาใช้งานได้อย่างเร็วที่สุดในเดือนพฤศจิกายน จากนั้นคณะกรรมการจะทำการประเมินผลหลังจากสิ้นปีการศึกษาปัจจุบันในเดือนมีนาคม ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะดำเนินการหรือขยายโครงการต่อไปหรือไม่ในอนาคต
References :
