เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (8 ส.ค.2565) รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตัวใหม่ ซึ่งผ่านการพิจารณาแล้วว่ามีประสิทธิภาพต้านทานเชื้อไวรัสโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย และเตรียมดำเนินการฉีดให้ประชาชนทุกคนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้วอย่างเร็วที่สุดในช่วงกลางเดือนตุลาคมเป็นต้นไป

โดยรายงานระบุว่า วัคซีนที่จะดำเนินการฉีดให้นั้น จะเป็นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิดสายพันธุ์คู่ (bivalent-วัคซีนแบบหนึ่งโดสที่รวมวัคซีนสองชนิดไว้ด้วยกัน) ที่ประกอบไปด้วยวัคซีนป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิม และวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.1

ซึ่งมีรายงานว่า วัคซีนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มแอนติบอดีที่สามารถป้องกันโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบันได้

สำหรับแผนฉีดวัคซีนนี้ ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการกระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นแล้ว เนื่องจากญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกที่ 7 ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อย BA.5 แพร่เชื้อได้ง่าย ทำให้ในวันพุธที่ผ่านมา (3 ส.ค.2565) ยอดผู้ติดเชื้อรายวันของญี่ปุ่นพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 250,000 ราย  

ขณะเดียวกัน บริษัทผู้ผลิตยาเริ่มดำเนินการพัฒนาวัคซีนที่สามารถรับมือกับโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5 ได้ ทว่า การจะทำให้มีเวชภัณฑ์ที่มากพอต่อการจัดส่งนั้นยังเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา ดังนั้น รัฐบาลญี่ปุ่นจึงเลือกที่จะจัดหาวัคซีนป้องกันโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1 มาใช้แทน

ทั้งนี้ ทางด้าน Pfizer บริษัทผู้ผลิตยายักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า บริษัทได้มีการยื่นคำขออนุมัติวัคซีนที่พัฒนามาเพื่อรับมือกับโควิดสายพันธุ์โอมิครอนต่อกระทรวงไปแล้ว และคาดว่าทาง Moderna ก็จะทำเช่นเดียวกันในอนาคตอันใกล้นี้

ซึ่งหากกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นได้มีการอนุมัติวัคซีนโควิด-19 ตัวใหม่ ภายใต้การพัฒนาของ Pfizer Inc. และ Moderna Inc. ก็คาดว่าจะสามารถนำเข้าวัคซีนอย่างเร็วที่สุดได้ในเดือนกันยายน

ขณะที่ขั้นตอนการยื่นขออนุมัติวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิดสายพันธุ์คู่ (bivalent) ในยุโรปนั้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว และขณะนี้กำลังเตรียมการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการฉีดในแต่ละประเทศได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นต้นไป


References :

Kyodonews
Japantimes

0 Shares:
You May Also Like