4 บริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมการผลิตรถจักรยานยนต์ของญี่ปุ่น จ่อยุติการผลิตรถกว่า 20 รุ่น ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อตอบสนองต่อกฎหมายควบคุมการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดขึ้นของญี่ปุ่น
ซึ่งมีรถจักรยานยนต์ที่เลิกใช้แล้ว คิดเป็น 10% ของทั้งหมดกว่า 190 รุ่น จากหลายบริษัท อาทิ Honda Motor, Yamaha Motor, Suzuki Motor และ Kawasaki Heavy Industries
โดยทาง Honda ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก เตรียมยุติการผลิตรถจักรยานยนต์ประมาณ 10 รุ่นจากทั้งหมด 80 รุ่น แม้แต่รุ่นยอดนิยมอย่าง CB400 Super Four ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ขนาดกลางที่ขายดีที่สุดตั้งแต่ปี 1990 และรถบิ๊กไบค์รุ่นต่างๆ จากตระกูล Gold Wing series
ขณะที่ Yamaha เตรียมหยุดจำหน่ายรุ่นเรือธงจากตระกูล FJR1300 เช่นเดียวกับ Suzuki ซึ่งจะนำรถอย่างน้อย 5 รุ่นจากทั้งหมด 20 รุ่นออกจากสายการผลิตภายในเดือนตุลาคม รวมถึงรุ่นยอดนิยมอย่าง GSX250R กระทั่ง Kawasaki Motors บริษัทในเครือของ Kawasaki Heavy Industries ก็ได้หยุดส่งออกรถจักรยานยนต์บางรุ่นไปบ้างแล้วในปีที่ผ่านมา
สืบเนื่องมาจากญี่ปุ่นกำหนดกฎหมายควบคุมการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดขึ้นตั้งแต่สิ้นปี 2020 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้กับรถทุกรุ่น ภายในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้
กฎหมายดังกล่าว กำหนดขึ้นตามมาตรฐานกำหนดการปล่อยมลพิษ Euro 5 ของสหภาพยุโรป ซึ่งกำหนดให้ลดการปล่อยไนโตรเจนออกไซด์ถึง 33%
ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามกฎข้อบังคับของญี่ปุ่น บริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์จะต้องติดตั้งเครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยาที่อัพเกรดแล้ว หรือออกแบบเครื่องยนต์ใหม่ทั้งหมด
ทว่า การพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ต้องใช้ต้นทุนสูง เนื่องจากราคาโลหะที่ใช้ในเครื่องฟอกไอเสียนั้นมีราคาแพงมาก
ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่รายหนึ่งเปิดเผยว่า หากนำโมเดลรถจักรยานยนต์เดิมมาออกแบบใหม่ จะทำให้ราคาขายสูงขึ้นเกือบ 3 ถึง 4 เท่า ซึ่งไม่มีแนวโน้มที่จะเติบโตในตลาดญี่ปุ่น ดังนั้น ผู้ผลิตจึงเลือกการลดจำนวนสินค้าลงจำนวนมาก และลดการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่
โดยคาดการณ์ว่า รถจักรยานยนต์รุ่นที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจะเข้ามามีบทบาทในการแข่งขันมากขึ้น เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนร่วมกัน อีกทั้ง หลายบริษัทต่างมุ่งเน้นการพัฒนาไปสู่การผลิตรถพลังงานไฟฟ้า
อย่างไรก็ดี บริษัทผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นเป็นผู้ครองสัดส่วนตลาดรถจักรยานยนต์ทั่วโลกถึง 40% จากแนวโน้มดังกล่าว คาดว่าจะเกิดการเร่งการเปลี่ยนผ่านจากการใช้รถเครื่องยนต์เบนซินเป็นพลังงานไฟฟ้าในเร็ววัน
References :
