Panasonic Holdings ของญี่ปุ่น วางแผนที่จะขายธุรกิจโปรเจคเตอร์ระดับไฮเอนด์ เพื่อมุ่งเน้นทรัพยากรไปที่การพัฒนาระบบห่วงโซ่อุปทานดิจิทัล โดย Panasonic Connect ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ จะตัดสินใจเลือกผู้ซื้อธุรกิจนี้ภายในเดือนมิถุนายน ด้วยราคาขายโดยประมาณ 80 พันล้านเยน (510 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
การขายธุรกิจครั้งนี้จะช่วยระดมทุนสำหรับขยายธุรกิจระบบของ Panasonic Connect ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับการเติบโต โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ Blue Yonder ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ห่วงโซ่อุปทานจากสหรัฐฯ ที่ Panasonic Holdings ซื้อกิจการไปเมื่อปี 2021 ด้วยมูลค่ากว่า 7 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ Orix กลุ่มบริษัทบริการทางการเงินของญี่ปุ่น และกองทุนต่างชาติอย่างน้อยหนึ่งแห่ง ได้แสดงความสนใจที่จะเข้าซื้อธุรกิจโปรเจคเตอร์นี้
Panasonic Connect ถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตโปรเจคเตอร์ไฮเอนด์และโปรเจคเตอร์สำหรับสถานที่ขนาดใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเคยจัดหาโปรเจคเตอร์ให้กับงานระดับโลกอย่างโอลิมปิก 2020 ที่โตเกียว แม้ว่าบริษัทจะไม่เปิดเผยยอดขายประจำปีล่าสุดของธุรกิจโปรเจคเตอร์ แต่ส่วนธุรกิจสื่อและความบันเทิงซึ่งรวมถึงโปรเจคเตอร์ รายงานยอดขาย 111 พันล้านเยนในปีงบประมาณที่ผ่านมา
การขายธุรกิจโปรเจคเตอร์ครั้งนี้ ถือเป็นการถอนการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดของ Panasonic Holdings นับตั้งแต่การขาย Panasonic Automotive Systems ให้กับ Apollo Global Management บริษัทไพรเวทอิควิตี้ของสหรัฐฯ ซึ่งประกาศไปเมื่อปีที่แล้ว โดยปัจจุบัน Panasonic Holdings กำลังดำเนินกลยุทธ์การเติบโตแบบสามขา ได้แก่ แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ฮีตปั๊ม และการจัดการห่วงโซ่อุปทาน และมีแผนจะลงทุนเกือบ 600 พันล้านเยนในธุรกิจแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในช่วงสามปีงบประมาณจนถึงปี 2024 อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความไม่แน่นอนในภาคแบตเตอรี่ เนื่องจากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าชะลอตัวลง ธุรกิจระบบของ Panasonic Connect จึงอาจกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้ของกลุ่มบริษัทในอนาคต
References :