กระทรวงเกษตร ป่าไม้และประมงของญี่ปุ่นเปิดเผยผลสำรวจซึ่งบ่งชี้ว่า เกษตรกรชาวญี่ปุ่นหลายรายเตรียมลดพื้นที่ปลูกข้าว และหันไปปลูก ข้าวสาลี และถั่วเหลืองมากขึ้นในปีนี้แทน หลังราคาธัญพืชในตลาดโลกพุ่งสูง เนื่องจากสงความระหว่างรัสเซียกับยูเครน

โดยเกษตรกรใน 37 จังหวัด จากทั้งหมด 47 จังหวัดของญี่ปุ่น เปิดเผยเมื่อสิ้นเดือนเมษายน ว่าจะลดพื้นที่ปลูกข้าวลงจากปีก่อน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 22 จังหวัดในผลการสำรวจครั้งก่อนเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

ปัจจุบัน ญี่ปุ่นนำเข้าข้าวสาลี 80% และถั่วเหลือง 90% ของปริมาณการบริโภคภายในประเทศ และราคาตลาดธัญพืชพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก เหตุจากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ซึ่งต่างเป็นประเทศผู้ส่งออกธัญพืชรายใหญ่ของโลก

ขณะเดียวกัน การบริโภคและราคาข้าวในญี่ปุ่นอยู่ในช่วงขาลงตั้งแต่ปี 1962 เนื่องจากวิถีการบริโภคของคนญี่ปุ่นมีความหลากหลายมากขึ้น และมีจำนวนประชากรที่ลดลง รวมถึงมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่จำกัดเวลาให้บริการของบรรดาร้านอาหาร ทำให้การบริโภคข้าวลดลงตามไปด้วย

โดยกระทรวงเกษตรของญี่ปุ่นประเมินว่า พื้นที่ทั้งหมดที่จัดสรรไว้สำหรับปลูกข้าวในประเทศจะลดลงประมาณ 35,000 เฮกตาร์ แต่แนะนำว่าควรลดพื้นที่อีก 4,000 เฮกตาร์ เพื่อลดปริมาณการผลิตให้ตรงตามความต้องการที่ประมาณ 6.75 ล้านตัน

ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้ให้เงินสนับสนุนแก่เกษตรกรเพื่อส่งเสริมการเพาะปลูกพืชผลอื่นนอกเหนือจากข้าว โดยมี 27 จังหวัดกล่าวว่าพวกเขาวางแผนจะเพิ่มการผลิต ข้าวสาลี ขณะที่ 30 จังหวัดวางแผนจะเพิ่มการผลิตถั่วเหลือง


References :

Japantimes


You May Also Like :

0 Shares:
You May Also Like