ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นแสดงให้เห็นว่า มีเพียง 17.5% ของประชาชนชาวญี่ปุ่นที่ถือหนังสือเดินทาง ณ สิ้นปี 2024 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 27% ในปี 2005 จำนวนหนังสือเดินทางญี่ปุ่นที่ยังมีผลใช้ได้ก็ลดลงเกือบ 40% ในช่วงเวลาเดียวกัน เหลือเพียง 21.64 ล้านฉบับ
ตัวเลขนี้แตกต่างอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยประมาณ 50% ของประชาชนสหรัฐฯ ถือหนังสือเดินทาง (เพิ่มขึ้นจาก 20% ในปี 2005) ขณะที่เกาหลีใต้และไต้หวันมีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 40% และ 60% ตามลำดับ ตามรายงานของสมาคมตัวแทนท่องเที่ยวญี่ปุ่น (JATA)
“นี่เป็นสถานการณ์ที่น่ากังวล เนื่องจากอาจส่งผลต่อการสร้างบุคลากรที่สามารถประสบความสำเร็จในเวทีโลก” ฮิโรยูกิ ทาคาฮาชิ ประธาน JATA กล่าวในเดือนมกราคม “เป็นความท้าทายร้ายแรงที่อาจทำให้ความสามารถในการแข่งขันระดับโลกของญี่ปุ่นอ่อนแอลง”
ในขณะที่จำนวนคนถือพาสปอร์ตลดลง ข้อมูลกลับแสดงให้เห็นว่าจำนวนชาวญี่ปุ่นที่ย้ายไปอาศัยในต่างประเทศอย่างถาวรกลับเพิ่มขึ้นทุกปีมานานกว่าสองทศวรรษจนถึงปี 2024 โดยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในประเทศที่มีรายได้สูงในอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตก การเพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้หญิงมีมากกว่าผู้ชาย
ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นว่าแม้คนญี่ปุ่นจะเดินทางออกนอกประเทศน้อยลง แต่สำหรับคนที่ออกไป จำนวนมากเลือกที่จะไม่กลับมา อาจเนื่องจากเห็นว่ามีทางเลือกในการประกอบอาชีพที่จำกัดในประเทศบ้านเกิด
ปรากฏการณ์นี้สอดคล้องกับการสำรวจความคิดเห็นของ Nikkei ที่พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ที่มีอายุตั้งแต่วัยรุ่นถึง 30 ปี ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดเป็นการเฉพาะ สะท้อนให้เห็นถึงความไม่พอใจและขาดความหวังในอนาคตของประเทศ
นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ พยายามมุ่งเน้นการผ่านงบประมาณปี 2025 ในรัฐสภา แต่กลับละเลยประเด็นการถกเถียงเชิงนโยบายเกี่ยวกับความสามารถในการแข่งขันระดับโลกและอนาคตระยะยาวของประเทศ
ปัญหาที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญ – ผู้ถือหนังสือเดินทางลดลงและหลายคนที่ไปต่างประเทศไม่กลับมา – คล้ายคลึงกับปัญหาการลดลงของประชากรในพื้นที่ชนบทที่เกิดจากการอพยพของคนหนุ่มสาวเข้าสู่เมืองใหญ่ คำถามสำคัญคือญี่ปุ่นและชาวญี่ปุ่นจะฟื้นฟูความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลกได้อย่างไร หากพรรคการเมืองยังคงหลีกเลี่ยงการถกเถียงประเด็นสำคัญนี้
References :