ล่าสุด วัคซีนไข้เลือดออก TAK-003 ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท Takeda Pharmaceutical บริษัทยาระดับโลก สัญชาติญี่ปุ่น ได้เสร็จสิ้นการทดลองทางคลินิกแล้ว พร้อมส่งออกไปยังหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติใช้ในประเทศอินโดนีเซียเป็นที่แรก
ซึ่งครั้งนี้จะถือเป็นครั้งแรกของญี่ปุ่นที่มีการเปิดตัววัคซีนในทั่วโลก โดยก่อนหน้านี้บริษัท Takeda ได้มีการยื่นขออนุมัติวัคซีนไข้เลือดออกในเอเชีย อเมริกาใต้ และยุโรปไปก่อนแล้ว พร้อมตั้งเป้าทำการตลาดวัคซีนใน 30 ประเทศ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ถึง 1,600 ล้านดอลลาร์ต่อปี (ประมาณ 57,000 ล้านบาท)
โดยวัคซีนไข้เลือดออกของบริษัท Takeda สามารถใช้ได้ในเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปโดยไม่มีผลข้างเคียง แตกต่างกับวัคซีนซึ่งพัฒนาโดยบริษัทผู้ผลิตยาจากฝรั่งเศส ซึ่งได้รับการอนุมัติใช้ในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกาแล้ว แต่ยังคงมีข้อจำกัดการใช้งานในบางประเทศ และสามารถใช้ได้ในเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 9 ปีขึ้นไป เนื่องจากยังคงมีผลข้างเคียง
ซึ่งจากการทดลองทางคลินิก แสดงให้เห็นว่าวัคซีนของ Takeda จำนวน 2 โดสมีประสิทธิภาพกว่า 61% ในการลดการติดเชื้อไวรัสเดงกี ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออก และมีประสิทธิภาพถึง 84% ในการป้องกันอาการร้ายแรง
โดยบริษัท Takeda ลงทุนกว่า 132 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,700 ล้านบาท) เพื่อสร้างโรงงานในเยอรมนีสำหรับผลิตวัคซีน 50 ล้านโดส เพียงพอสำหรับประชากรจำนวน 25 ล้านคนต่อปี และบริษัทจะจำหน่ายวัคซีนดังกล่าวในทั่วโลกผ่านบริษัทยายักษใหญ่ของไอร์แลนด์ ซึ่ง Takeda ได้ซื้อไว้ในปี 2019 ด้วยมูลค่ากว่า 62,000 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ บริษัท Takeda กำลังพัฒนาวัคซีนสำหรับโรคติดเชื้อชนิดอื่นๆ ด้วยเช่นกัน โดยบริษัทฯ ตั้งใจที่เร่งพัฒนาวัคซีนใหม่ๆ และทำให้วัคซีนเหล่านี้กลายเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ ควบคู่ไปกับยารักษาโรคมะเร็ง และยาชนิดอื่นๆ
อนึ่ง องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า โรคไข้เลือดออกเป็นโรคเฉพาะถิ่นในเขตร้อน ซึ่งในแต่ละปี มียอดผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกกว่า 390 ล้านคนทั่วโลก
References :