ล่าสุด Mitsubishi Motors เปิดเผยว่าจะเริ่มผลิตรถยนต์ไฮบริดในประเทศไทยช่วงต้นปี 2024 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของบริษัทที่จะผลิตรถยนต์ไฮบริดในต่างประเทศ
เนื่องจากบริษัทมีความเชื่อว่าผู้บริโภคจะยังต้องการรถไฮบริดไปอีก 10 ปี โดยเฉพาะในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่อาจต้องใช้เวลานานกว่าที่ผู้บริโภคจำนวนมากจะสามารถซื้อรถยนต์ไฟฟ้า 100% ได้ ด้วยปัจจัยด้านราคาที่สูงและโครงสร้างพื้นฐานอย่างสถานีชาร์จ
โดยประเทศไทยมีสถานีชาร์จไฟฟ้าประมาณ 1,200 แห่ง และอินโดนีเซียมีเพียง 500 แห่ง ตามข้อมูลในปี 2022 ซึ่งนับว่าน้อยกว่าหนึ่งในหกของจำนวนสถานีชาร์จในสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ข้อมูลจากบริษัทวิจัย GlobalData ระบุว่าในปี 2022 ยอดขายรถไฮบริดของประเทศในภูมิภาคนี้ เช่น ไทย อินโดนีเซีย นั้นสูงถึง 102,000 คัน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสิบเท่าเป็น 1.03 ล้านคันในปี 2035
ทั้งนี้ รถที่คาดว่าจะนำมาผลิตในไทยคือรถมินิแวน X PANDER ซึ่งเป็นรุ่นหลักที่มีสัดส่วน 10% ของยอดขายทั้งหมด โดยบริษัทได้ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าในประเทศตลาดเกิดใหม่ทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง พร้อมวางแผนที่จะเพิ่มอัตราส่วนของรถยนต์ไฟฟ้ารวมถึงรถยนต์ไฮบริดเป็น 50% ของยอดขายทั่วโลก ภายในปี 2030 และเตรียมยุติการจำหน่ายรถยนต์สันดาป ภายในปี 2035
นอกจากนี้ Mitsubishi Motors ยังระบุว่าจะพิจารณาสร้างรถยนต์ไฮบริดในประเทศอินโดนีเซียด้วย เนื่องจากต้องการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรนิกเกิลที่มีอยู่มากในอินโดนีเซีย เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
References :