Toyota เผยยอดขายทั่วโลกในเดือนเมษายนลดลง จากปัญหาชิปขาดแคลน และการล็อกดาวน์สกัด COVID-19 ในเซี่ยงไฮ้

ล่าสุด Toyota Motor Corp. ได้แถลงตัวเลขยอดขายทั่วโลก ประจำเดือนเมษายน ซึ่งลดลง 11.1% เมื่อเทียบรายปี คิดเป็นจำนวนอยู่ที่ 763,708 คัน และลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่แปด โดยได้เผยถึงสาเหตุ ซึ่งได้รับผลกระทบมาจากหลายปัจจัย อาทิ วิกฤตการขาดแคลนชิป เซมิคอนดักเตอร์ ทั่วโลก (Semiconductor Chip Shortage) และมาตรการล็อกดาวน์ในเซี่ยงไฮ้ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของ COVID-19

ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ปริมาณการผลิตรถยนต์ทั่วโลกของ Toyota ลดลงกว่า 9.1% คิดเป็นจำนวนอยู่ที่ 692,259 คัน ซึ่งปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากประสบกับภาวะขาดแคลนซัพพลาย ทำให้ต้องลดปริมาณการผลิตลง

นอกจากนี้ Toyota และผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ต้องระงับสายการผลิต เนื่องจากวิกฤตขาดแคลนชิป เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ถูกใช้ในหลายผลิตภัณฑ์ เช่น รถยนต์ เครื่องปรับอากาศ และสมาร์ทโฟน

ซึ่งยอดขายทั่วโลกในเดือนเมษายน ยังต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ 750,000 คัน ตามแถลงการณ์ของ Toyota เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาอีกด้วย

ในญี่ปุ่น ยอดขายรถยนต์ของ Toyota ในเดือนเมษายน รวมถึงรถยนต์ขนาดเล็ก ลดลง 16.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คิดเป็นจำนวนอยู่ที่ 103,143 คัน ขณะที่ปริมาณการผลิตลดลง 9.0% คิดเป็นจำนวนอยู่ที่ 243,425 คัน ขณะเดียวกัน ยอดขายในต่างประเทศของ Toyota ลดลง 10.2% คิดเป็นจำนวนอยู่ที่ 660,565 คัน ขณะที่ปริมาณการผลิตลดลง 9.1% คิดเป็นจำนวนอยู่ที่ 448,834 คัน

โดยเฉพาะในจีน หลังออกมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในเซี่ยงไฮ้ ส่งผลให้ความต้องการรถยนต์ลดลง และทำให้ยอดขายในจีนลดลง 30.7% คิดเป็นจำนวนอยู่ที่ 111,134 คัน ขณะที่ปริมาณการผลิตร่วงถึง 33.8% คิดเป็นจำนวนอยู่ที่ 93,297 คัน ซึ่งเป็นผลกระทบจากการปิดโรงงานในเมืองฉางชุน


References :

KYODO NEWS

0 Shares:
You May Also Like