Kioxia Holdings ผู้ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำของญี่ปุ่น ได้เริ่มกระบวนการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวอีกครั้ง โดยตั้งเป้าภายในปี 2024 เพื่อระดมทุนสำหรับการลงทุน และตอบสนองความต้องการชิปหน่วยความจำที่เพิ่มสูงขึ้นตามการแพร่หลายของปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดย Bain Capital กองทุนลงทุนสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัท ได้แจ้งธนาคารเจ้าหนี้ของ Kioxia ถึงความตั้งใจที่จะเสนอขายหุ้น IPO เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
Kioxia เป็นผู้ผลิต NAND Flash Memory ซึ่งใช้สำหรับจัดเก็บข้อมูล ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก โดยได้รับอนุมัติให้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวเมื่อปี 2020 แต่ต้องเลื่อนการเสนอขายหุ้นออกไปในนาทีสุดท้าย เนื่องจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และภาวะตลาดที่เลวร้ายลง ในตอนนั้น มูลค่าตลาดของบริษัทคาดว่าจะเกิน 2 ล้านล้านเยน (13,000 ล้านดอลลาร์) แต่กระบวนการในการเข้าตลาดหุ้นครั้งนี้อาจถูกระงับอีกครั้ง ขึ้นกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ
Kioxia เร่งนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางธุรกิจกำลังปรับตัวดีขึ้น คาดว่าความต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลใน Data Center สำหรับ AI จะเติบโตต่อไปในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หลังจากที่ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีในสหรัฐฯ วางแผนเสนอบริการ Generative AI ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ตลาดคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนอ่อนตัวลงตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2022 เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวจีนที่เย็นลง ส่งผลให้ Kioxia และผู้เล่นในอุตสาหกรรมรายอื่นๆ ต้องลดกำลังการผลิตลงมากกว่าหนึ่งปี เพื่อระบายสินค้าคงคลัง
อย่างไรก็ตาม TrendForce ผู้ให้บริการข้อมูลตลาดในไต้หวัน คาดการณ์ว่าราคาหน่วยความจำ NAND จะเพิ่มขึ้น 13-18% ในไตรมาสเมษายน-มิถุนายน เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้คาดว่าผลประกอบการของ Kioxia จะปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่ขาดทุน 2.54 แสนล้านเยนในช่วงเมษายน-ธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลจากการแยกตัวอย่างเป็นทางการจาก Toshiba ในปี 2018 และเปลี่ยนชื่อเป็น Kioxia ในปีถัดมา ปัจจุบันบริษัทถือหุ้นโดยบริษัทเฉพาะกิจที่จัดตั้งโดย Bain และ SK Hynix ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำในเกาหลีใต้ ในสัดส่วน 56% ส่วน Toshiba ยังคงถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 41% และคาดว่าหลังจากเข้าตลาดหุ้นแล้ว ผู้ถือหุ้นรายใหญ่เหล่านี้จะยังคงถือหุ้นใน Kioxia ต่อไป และจะพิจารณาจำกัดจำนวนหุ้นใหม่ที่เสนอขาย เพื่อหลีกเลี่ยงการลดทอนมูลค่าหุ้นที่มีอยู่
References :